ผลกระทบของโทรศัพท์มือถือในปัจจุบัน
Unit 1
Rationale
Why do this project.
ในปัจจุบันสังคมของประเทศก้าวเข้าสู่ยุคโลกาภิวัตน์ ข้อมูลข่าวสารของโลกสมัยใหม่แพร่กระจายสู่สังคมต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้อิทธิพลของวัฒนธรรมตะวันตกได้ครอบงำวิถีชีวิตของวัยรุ่นไทยจำนวนไม่ น้อยทั้งในด้าน การคมนาคมละเทคโนโลยีของวัยรุ่นไทยกลายเป็นสังคมบริโภคที่แทบจะไม่มีประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ
Why do this project.
ในปัจจุบันสังคมของประเทศก้าวเข้าสู่ยุคโลกาภิวัตน์ ข้อมูลข่าวสารของโลกสมัยใหม่แพร่กระจายสู่สังคมต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้อิทธิพลของวัฒนธรรมตะวันตกได้ครอบงำวิถีชีวิตของวัยรุ่นไทยจำนวนไม่ น้อยทั้งในด้าน การคมนาคมละเทคโนโลยีของวัยรุ่นไทยกลายเป็นสังคมบริโภคที่แทบจะไม่มีประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ
เด็กและเยาวชน
ปัจจุบันนี้การใช้สิ่งอำนวยความสะดวกประเภทเทคโนโลยีสารสนเทศถูกใช้ในการติดต่อสื่อสารกันในปัจจุบัน
ละใช้เทคโนโลยีขั้นสูง แต่เทคโนโลยีสมัยนี้ใช้กันอย่างมากทั้งด้านที่ดีและไม่ดี
เทคโนโลยีมีผลกระทบในหลายๆด้านดังนี้เราควรหาข้อแก้ไขในการใช้อุปกรณ์เหล่านี้ให้ถูกวิธี
โทรศัพท์มือถือมีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไร
องค์การอนามัยโลกหรือ WHO จัดทำรายงานบ่งชี้ว่าสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่เกิดจากโทรศัพท์มือถืออาจเป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ แต่บรรดาผู้แทนอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไร้สายต่างแย้งว่ายังไม่มีหลักฐานชัดเจนถึงผลเสียของโทรศัพท์มือถือที่มีต่อสุขภาพองค์การอนามัยโลกประเมินว่าปัจจุบันมีประชากรโลกใช้โทรศัพท์มือถือราว 5 พันล้านคน และยังเตือนด้วยว่ายิ่งใช้โทรศัพท์มือถือบ่อยเท่าไรก็ยิ่งมีความเสี่ยงต่อโรคเนื้องอกในสมองมากขึ้นตามไปด้วย นักวิทยาศาสตร์จำนวนมากเห็นด้วยกับคำเตือนนี้ในขณะที่บางคนแย้งว่ารายละเอียดหลายอย่างยังไม่ชัดเจนนัก
ซึ่งให้คำแนะนำเรื่องผลกระทบของสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีต่อสุขภาพระบุว่า เริ่มมีการศึกษาผลกระทบของสนามแม่เหล็กไฟฟ้าตั้งแต่เมื่อ 60 ปีมาแล้ว ซึ่งรวมถึงโรคมะเร็งและผลเสียที่มีต่อเซลล์ต่างๆในร่างกายตลอดจนยีนหรือดีเอ็นเอ โดยสิ่งที่กังวลที่สุดคือสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่มาจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือซึ่งตั้งอยู่ใกล้เขตชุมชนโดยเฉพาะโรงเรียน เนื่องจากเด็กๆคือกลุ่มที่เปราะบางที่สุดและมีโอกาสได้รับอันตรายจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้ามากที่สุด ผลกระทบของสนามแม่เหล็กไฟฟ้า และพบว่าสมองมนุษย์อ่อนไหวต่อคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ส่งออกมาจากโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะเมื่อแนบโทรศัพท์มือถือไว้ที่หูหรือข้างศรีษะนานๆอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 15-30 ปีกว่าที่จะทราบผลกระทบที่แท้จริงของสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม เธอแนะนำว่าผู้ปกครองไม่ควรให้เด็กๆหรือเยาวชนคุยโทรศัพท์มือถือโดยแนบไว้ที่หูนานๆแต่ให้ใช้หูฟังแทน และไม่แนะนำให้วางโทรศัพท์มือถือไว้ใต้หมอนขณะนอนหลับด้วย
สนามแม่เหล็กไฟฟ้าจากโทรศัพท์มือถือยังอาจส่งผลต่อระบบการสืบพันธุ์ของเพศชายได้ด้วย โดยบอกว่าผู้ชายที่ใช้โทรศัพท์มือถือเกินวันละ 4 ชั่วโมง มีแนวโน้มสูงที่ตัวแปรควบคุมเชื้ออสุจิจะลดลง เช่นจำนวนตัวอสุจิ ตลอดจนการเคลื่อนที่และโครงสร้างของอสุจิเหล่านั้น จึงไม่แนะนำให้ใช้โทรศัพท์มือถือนานเกิน 4 ชม.ในแต่ละวัน
ผลกระทบต่างๆที่เกิดจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้านั้นยังไม่ใช่ข้อสรุป เป็นแค่เพียงคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญและแพทย์เท่านั้น ซึ่งทางองค์การอนามัยโลกยืนยันแล้วว่าจะต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องนี้ต่อไปให้ถูกวิธี
องค์การอนามัยโลกหรือ WHO จัดทำรายงานบ่งชี้ว่าสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่เกิดจากโทรศัพท์มือถืออาจเป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ แต่บรรดาผู้แทนอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไร้สายต่างแย้งว่ายังไม่มีหลักฐานชัดเจนถึงผลเสียของโทรศัพท์มือถือที่มีต่อสุขภาพองค์การอนามัยโลกประเมินว่าปัจจุบันมีประชากรโลกใช้โทรศัพท์มือถือราว 5 พันล้านคน และยังเตือนด้วยว่ายิ่งใช้โทรศัพท์มือถือบ่อยเท่าไรก็ยิ่งมีความเสี่ยงต่อโรคเนื้องอกในสมองมากขึ้นตามไปด้วย นักวิทยาศาสตร์จำนวนมากเห็นด้วยกับคำเตือนนี้ในขณะที่บางคนแย้งว่ารายละเอียดหลายอย่างยังไม่ชัดเจนนัก
ซึ่งให้คำแนะนำเรื่องผลกระทบของสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีต่อสุขภาพระบุว่า เริ่มมีการศึกษาผลกระทบของสนามแม่เหล็กไฟฟ้าตั้งแต่เมื่อ 60 ปีมาแล้ว ซึ่งรวมถึงโรคมะเร็งและผลเสียที่มีต่อเซลล์ต่างๆในร่างกายตลอดจนยีนหรือดีเอ็นเอ โดยสิ่งที่กังวลที่สุดคือสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่มาจากเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือซึ่งตั้งอยู่ใกล้เขตชุมชนโดยเฉพาะโรงเรียน เนื่องจากเด็กๆคือกลุ่มที่เปราะบางที่สุดและมีโอกาสได้รับอันตรายจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้ามากที่สุด ผลกระทบของสนามแม่เหล็กไฟฟ้า และพบว่าสมองมนุษย์อ่อนไหวต่อคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ส่งออกมาจากโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะเมื่อแนบโทรศัพท์มือถือไว้ที่หูหรือข้างศรีษะนานๆอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 15-30 ปีกว่าที่จะทราบผลกระทบที่แท้จริงของสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม เธอแนะนำว่าผู้ปกครองไม่ควรให้เด็กๆหรือเยาวชนคุยโทรศัพท์มือถือโดยแนบไว้ที่หูนานๆแต่ให้ใช้หูฟังแทน และไม่แนะนำให้วางโทรศัพท์มือถือไว้ใต้หมอนขณะนอนหลับด้วย
สนามแม่เหล็กไฟฟ้าจากโทรศัพท์มือถือยังอาจส่งผลต่อระบบการสืบพันธุ์ของเพศชายได้ด้วย โดยบอกว่าผู้ชายที่ใช้โทรศัพท์มือถือเกินวันละ 4 ชั่วโมง มีแนวโน้มสูงที่ตัวแปรควบคุมเชื้ออสุจิจะลดลง เช่นจำนวนตัวอสุจิ ตลอดจนการเคลื่อนที่และโครงสร้างของอสุจิเหล่านั้น จึงไม่แนะนำให้ใช้โทรศัพท์มือถือนานเกิน 4 ชม.ในแต่ละวัน
ผลกระทบต่างๆที่เกิดจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้านั้นยังไม่ใช่ข้อสรุป เป็นแค่เพียงคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญและแพทย์เท่านั้น ซึ่งทางองค์การอนามัยโลกยืนยันแล้วว่าจะต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องนี้ต่อไปให้ถูกวิธี
Unit 2
Objcetives
1. เพื่อไม่ให้วัยรุ่นใช้อุปกรณ์สื่อสารมากเกินไปควรที่จะมีการจัดอบรม วิธีการใช้ให้ถูกต้อง
2. เพื่อเสริมสร้างให้วัยรุ่นรู้จักใช้อุปกรณ์เหล่านี้ให้เป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวันUnit 3
Processes
1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่ตนเองสนใจ
2. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
3. จัดทำเค้าโครงของโครงงาน รวมทั้งวางแผนการทำโครงงานทุกขั้นตอน โดยปรึกษากับอาจารย์ที่ปรึกษาหรือผู้ทรงคุณวุฒิแล้ว
4. การลงมือทำโครงงาน
5. การเขียนรายงาน6. การนำเสนอโครงงาน
Unit 4
Result
1. ทำให้ไม่เสียการเรียน เพราะถ้าหมกมุ่นกับเรื่องนี้จะทำให้ขาดสมาธิในการเรียน
2. ทำให้เราใช้อุปกรณ์สื่อสารชนิดนี้อย่างมีประโยชน์3. จะได้มีเวลาอ่านหนังสือและพักผ่อนอย่างพอดี
4. ทำให้เสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากกับอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็น
Unit 5
photos
1.ms.chayanit ketngam no. 23 m.3/5
2.mr.kittanat homsombat no. 25 m.3/5
3.ms.passaporn intiya no. 46 m.3/5
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น